วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

ภาวะซึมเศร้าหรือโรคซึมเศร้าหลังคลอด


     สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะตั้งครรภ์และภายหลังการคลอด อาจทำให้หญิงหลังคลอดเกิดความทุกข์ทางด้านจิตใจขึ้น เช่น ความกังวลเกี่ยวกับลูก การเลี้ยงเด็กหรือคนช่วยเลี้ยงเด็ก ความเข้าใจในความรู้สึกและอารมณ์ของตนเอง การที่หญิงหลังคลอดรู้จักโรคทางด้านจิตใจ จะช่วยให้การดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจตนเองได้ดีขึ้น ปัญหาทางจิตใจที่พบได้บ่อยหลังคลอด ได้แก่
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
     เป็นสภาวะทางจิตใจที่เกิดขึ้นชั่วคราวและสามารถหายเองได้ของหญิงหลังคลอด พบได้ร้อยละ 50 - 80 อาการมักจะเกิดขึ้นในวันที่ 4 หรือ 5 หลังจาการคลอด และมีอาการไม่เกิน 2 สัปดาห์ อาการที่พบ ได้แก่ นอนไม่หลับ รู้สึกเศร้า ร้องไห้บ่อย อ่อนเพลีย หงุดหงิด วิตกกังวลง่าย ไม่ค่อยมีสมาธิ ปวดศีรษะ การให้ความดูแลทางด้านจิตใจจากคนใกล้ชิด ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้อาการที่เกิดขึ้นของหญิงหลังคลอดหายเร็วขึ้นหรืออาจป้องกันไม่ให้เกิดอาการได้
     ✿ สร้างความมั่นใจว่า อาการนี้เป็นปกติ พบได้บ่อยและจะหายไปเอง
     ✿ ให้ความช่วยเหลือหรือให้ความรู้ในการดูแลลูก
     ✿ กำลังใจจากสามีและครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การอยู่เป็นเพื่อน และคอยให้ความช่วยเหลือ

โรคซึมเศร้าหลังคลอด
     เป็นโรคทางจิตใจชนิดหนึ่งที่พบในหญิงหลังคลอด บางคนอาจเริ่มมีอาการตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ แต่ส่วนใหญ่มักมีอาการเด่นชัดหลังคลอด 2-3 เดือน และมีอาการนานกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้ไม่สามารถดูแลลูกได้ อาการที่พบ ได้แก่
     ✿ เศร้า ร้องไห้บ่อย
     ✿ รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่สนใจในการดูแลลูก หรือเรื่องที่ต้องทำเป็นประจำ
     ✿ รู้สึกผิดที่มีลูก หรือไม่สามารถดูแลลูกได้
     ✿ รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า เป็นแม่ที่ไม่มีความสามารถ
     ✿ อ่อนเพลียตลอดเวลา
     ✿ นอนไม่หลับหรือนอนหลับมาก
     ✿ เบื่ออาหารหรืออยากกินอาหารตลอดเวลา
     ✿ ไม่มีสมาธิ
     ✿ คิดถึงความตาย คิดอยากตายหรือคิดอยากฆ่าลูกตัวเองได้


โอกาสเกิดของโรคซึมเศร้าหลังคลอดจะสูงขึ้น หากพบปัจจัยเสี่ยง ต่อไปนี้ร่วมด้วย
     ✿ เคยเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด เมื่อการตั้งครรภ์ครั้งที่ผ่านมา
     ✿ มีอาการซึมเศร้าขณะตั้งครรภ์
     ✿ มีประวัติป่วยด้วยโรคซึมเศร้า หรือโรคไบโพล่าร์มาก่อน
     ✿ ประสบเหตุการณ์ที่สร้างความเครียดช่วงใกล้คลอด
     ✿ มีปัญหาในชีวิตสมรส
     ✿ ขาดความช่วยเหลือทางสังคม


อั พ เ ด ท ข่ า ว ส า ร ก่ อ น ใ ค ร ไ ด้ ที่
   
 ห่อตัวมัสลิน ผ้าอ้อมมัสลิน บอดี้สูทเด็ก บอดี้สูททารก ถุงนอนทารก ผ้าปูรองฉี่ ของใช้ทารกแรกเกิด  



วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2562

วิธีการให้นมแม่


1. ก่อนให้นมลูกทุกครั้ง แม่ต้องล้างมือให้สะอาด ล้างหรือเช็ดเต้านมและหัวนมด้วยนํ้าสะอาด
2. แม่ควรอยู่ในท่าที่สบาย จะนั่งหรือนอนก็ได้ ถ้าลูกเล็กอยู่อาจใช้หมอนหรือเบาะวางบนตักแม่เพื่อรองรับเด็ก ให้ปากเด็กอยู่ในระดับหัวนมแม่ แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ หรือนิ้วชี้กับนิ้วกลางวางคร่อมหัวนมบนผิวหนังสีคลํ้าๆ รอบหัวนม และกดลงเล็กน้อยเพื่อให้หัวนมยื่นออกมามากขึ้น ใช้หัวนมเขี่ยเบาๆ ที่มุมปากลูกเพื่อกระตุ้นให้ลูกอ้าปาก และหันมาหาหัวนม แล้วจึงสอดหัวนมเข้าปากลูกให้ลึกพอควร ให้เหงือกของลูกอมอยู่บนผิวหนังสีคลํ้ารอบหัวนม นิ้วมือที่วางอยู่บนผิวหนังสีคลํ้ารอบหัวนมนั้น จะช่วยกดเต้าไม่ให้อุดจมูกลูกด้วย
3. วันแรกๆ ให้ดูดทุกๆ 3 ชั่วโมง ต่อไปจึงค่อยๆ ปรับให้เข้ากับความต้องการของเด็ก การที่เด็กร้องไม่จำเป็นต้องหิวเสมอไปอาจเป็นเพราะผ้าอ้อมเปียก ร้อนหรือเย็นเกินไป ไม่สบาย มดหรือแมลงกัด หรือต้องการให้อุ้มก็ได้
4. แต่ละมื้อให้ดูดนมทั้ง 2 ข้าง ในมื้อถัดไปให้เริ่มข้างที่ดูดค้างไว้จากมื้อก่อน
5. ควรให้ลูกดูดนานพอควร เช่น ในวันแรกดูดข้างละประมาณ 5 นาที วันที่สองประมาณข้างละ 10 นาที ตั้งแต่วันที่สามเป็นเป็นต้นไปข้างละประมาณ 15 นาที ซึ่งจะทำให้นํ้านมมาเร็วขึ้น
และทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้นด้วย นํ้านมเริ่มมีมากขึ้นในวันที่ 2-3 หลังคลอด และจะไหลเต็มที่ประมาณวันที่ 7 เป็นต้นไป
6. ในระยะ 2-3 วันแรก นํ้านมจะมีน้อย แต่ไม่จำเป็นต้องให้นมผสมเพิ่ม หลังจากที่ดูดนมแม่แล้ว ถ้าเด็กร้องให้ดูดนํ้าต้มสุก อย่าผสมนํ้าตาลหรือนํ้าผึ้งในนํ้าดื่ม
7. เพื่อป้องกันไม่ให้หัวนมถลอกเป็นแผล เมื่อลูกดูดนมเสร็จแล้วก่อนที่จะเอาหัวนมออกจากปาก ควรใช้นิ้วก้อยสอดไประหว่างมุมปากลูกแล้วค่อยๆ ดึงหัวนมออก
8. ก่อนเอาลูกลงนอนควรอุ้มขึ้นพาดบ่าให้เรอเสียก่อน หรืออาจช่วยตบหลังเบาๆ ไปด้วย เพื่อช่วยให้เรอก็ได้
9. หลังให้นมลูกแล้ว เพื่อป้องกันหัวนมแตกและทำให้นํ้านมไหลสะดวกในมื้อต่อไป แม่ควรเช็ดล้างหัวนมด้วยนํ้าสะอาด


ระยะเวลาที่ควรเริ่มให้นม
ให้ได้เร็วที่สุดหลังจากแม่และลูกได้พักผ่อนหลังคลอดแล้ว แม่ไม่มีนํ้านม แต่เพื่อกระตุ้นให้นํ้านมมาเร็ว ควรให้ลูกดูดนมแม่เร็วที่สุด โดยเริ่มภายใน 2-3 ชั่วโมง หลังคลอดนํ้านมแม่ในวันแรกๆ มีสีเหลืองอ่อนและมีไม่มาก แต่เป็นนํ้านมที่มีคุณค่าอย่างยิ่งเพราช่วยป้องกันโรคหลายอย่างได้ และช่วยระบายขี้เทาด้วย จึงควรให้ลูกดูดไม่ควรบีบทิ้ง

ระยะเวลาของการให้นมแม่
ควรให้ลูกกินนมแม่ไปเรื่อยๆ จนอายุอย่างน้อย 18 เดือน เพราะนมแม่มีสารอาหารต่างๆ ครบถ้วน เมื่อลูกอายุ 4 เดือน ควรเริ่มอาหารเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 13 ที่ถูกต้องเพียงพอกับความต้องการ โดยในระยะ 6 เดือนแรก นมแม่จะเป็นอาหารหลัก



อั พ เ ด ท ข่ า ว ส า ร ก่ อ น ใ ค ร ไ ด้ ที่
   
 ห่อตัวมัสลิน ผ้าอ้อมมัสลิน บอดี้สูทเด็ก บอดี้สูททารก ถุงนอนทารก ผ้าปูรองฉี่ ของใช้ทารกแรกเกิด  



การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ [Part2]



การเตรียมตัวของแม่ก่อนคลอด 

นอกจากแม่จะต้องปฏิบัติตัวในระยะตั้งครรภ์แล้วแม่จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวเพื่อให้นมลูกดังนี้
     1. แม่ควรกินอาหารให้เหมาะสม เพียงพอและกินให้ครบทั้ง 5 หมู่ มีน้ำหนักหนักตัวก่อนคลอดเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 - 12 กก.
     2. แม่ควรใช้เสื้อชั้นในที่มีขนาดพอเหมาะกับการขยายตัวของเต้านม เพื่อช่วยพยุงเต้า นมแต่ไม่ควรให้กดรัดเต้า นม
     3. แม่ควรเตรียมหัวนมเพื่อให้ลูกดูดได้ง่าย โดยการดึงหัวนม แล้วใช้อุ้งมือรูดจากฐานเต้านมไปที่ปลายหัวนมทำวันละ 1-2 ครั้ง ถ้าบริเวณปลายหัวนมมีสะเก็ดดำติดอยู่ให้ใช้ผ้าสะอาดเนื้อนุ่มๆ ชุบน้ำธรรมดานำมาเช็ดออก
     4. แม่ที่มีหัวนมบอดหรือบุ๋ม ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อขอรับคำแนะนำและวิธีแก้ไข

การปฏิบัติตัวของแม่หลังคลอดมีดังนี้
     1. หลังคลอดให้ลูกนอนใกล้ชิดกับแม่และให้ลูกเริ่มดูดนมแม่เร็วที่สุด ภายใน 6 ชั่วโมงอย่างช้าไม่เกิน 12 ชั่วโมงและให้ดูดนมบ่อยๆ เพราะเป็นการกระตุ้นให้มีน้ำนมเร็วและมากขึ้น น้ำนมนมในวันแรกๆเป็นหัวน้ำนม(Colostrum) มีสีเหลืองอ่อนใส มีจำนวนน้อยแต่เพียงพอสำหรับลูก เป็นน้ำนมที่มีประโยชน์อย่างยิ่งเพราะช่วยขับขี้เทา(Mecconium) และสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เช่นท้องร่วง ควรให้ลูกดูดนมทุกๆ 2 ชั่วโมง
     2. วันต่อๆ ไปให้ลูกดูดนมเมื่อหิว(โดยทั่วไปประมาณทุกๆ 3 ชั่วโมง) ขณะดูดนม บางครั้งลูกอาจจะหลับไป แม่ควรใช้นิ้วขยับหัวนมหรือเขี่ยแก้มลูกกระตุ้นให้ลูกดูดจนอิ่ม
     3. ให้ลูกดูดนมทั้ง 2 ข้าง นานข้างละประมาณ 15 นาที
     4. ในมื้อถัดไปให้เริ่มเต้าที่ดูดที่หลังก่อนเพราะน้ำนมที่ค้างอยู่ มีประโยชน์มาก   และเป็นการกระตุ้นให้มีน้ำนมเพิ่มมากขึ้น
     5. ในขณะให้นมลูก แม่ควรอยู่ในท่าที่สบาย ใช้อุ้งมือประคองเต้านม โดยใช้นิ้วชี้และหัวแม่มือปรับหัวนมให้ตรงกับปากของลูก ระวังอย่าให้เต้านมอุดจมูกลูก
    6. สอดหัวนมเข้าปากลูกให้ลึกพอ โดยเหงือกของลูกย้ำอยู่บนลานหัวนม (ไม่ใช่ย้ำที่หัวนม) เพื่อกระตุ้นให้ลูกดูดนมและมีน้ำนมเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังป้องกันหัวนมแตก
    7. ถ้าแม่มีน้ำนมหยดออกมาในข้างที่ไม่ได้ให้ลูกดูดนม แม่ควรใช้นิ้วคลึงเบา ๆ ที่หัวนมน้ำนมก็จะไม่หยดและถ้าลูกหยุดดูดหรือหลับ แม่ควรปลดปากลูกออกจากหัวนมแม่ก่อนโดยใช้นิ้วสอดเข้าที่มุมปากหรือใต้คางลูกพอลูกอ้าปากแม่ก็ค่อยๆ ถอนหัวนมออกจากปากลูกได้
    8. เมื่อลูกดูดนมข้างหนึ่งเสร็จ ควรจับลุกขึ้นพาดบ่าแล้วลูกหลังเบาๆ เพื่อให้เรอและทำซ้ำอีกครั้งเมื่อลูกดูดนมอิ่ม





อั พ เ ด ท ข่ า ว ส า ร ก่ อ น ใ ค ร ไ ด้ ที่
   
 ห่อตัวมัสลิน ผ้าอ้อมมัสลิน บอดี้สูทเด็ก บอดี้สูททารก ถุงนอนทารก ผ้าปูรองฉี่ ของใช้ทารกแรกเกิด  





วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2562

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ [Part1]



     การเลี้ยงดูลูกด้วยนมแม่เป็นกรรมวิธีที่สำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมโภชนา การและสุขภาพทารก ซึ่งเป็นพื้นฐานของสุขภาพที่ดี และมีคุณภาพน้ำนมเป็นอาหารที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับความต้องการของทารกมากที่สุด ทำให้ทารกเจริญเติบโต ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างกลมกลืนกันนมแม่มีคุณค่าหลายอย่างเหนือกว่าอาหารทดแทนอย่างอื่นที่จะนำมาใช้ทดแทนนมแม่ เช่น การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะช่วยขจัดปัญหาการติดเชื้อ ความไม่สะดวก สามารถสร้างภูมิต้านทานโรคแก่ทารก นอกจากนี้ยังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกในขณะที่ให้นมลูกอีกด้วย

ประโยชน์ต่อแม่
     1. เกิดความรักและผูกพันต่อลูก
     2. ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น ช่วยขับน้ำคาวปลา
     3. โอกาสที่แม่จะเป็นมะเร็งเต้า นมน้อยลง
     4. ทำให้แม่ไม่อ้วน เพราะไขมันที่สะสมไว้ขณะที่แม่ท้องจะถูกนำมาสร้างน้ำนมสำหรับลูก
     5. สะดวก ประหยัดเงินและเวลา

ประโยชน์ต่อลูก
     1. ทำให้ลูกเกิดความอบอุ่น
     2. มีสารอาหารครบถ้วนที่จะไปเสริมร่างกาย และนำไปสร้างความเจริญเติบโตและพัฒนาการให้ได้สัดส่วนกัน
     3. ย่อยง่าย ถ่ายสะดวก ท้องไม่ผูก
     4. สะอาดและปลอดภัย เพราะน้ำนมไหลจากเต้านมเข้าปากลูกทันที
     5. โอกาสที่ลูกจะเป็นโรคหลายอย่างน้อยลง หากเกิดอาการ ก็ไม่รุนแรง เช่น โรคท้องร่วง หวัด ปอดบวม หรือโรคภูมิแพ้



อั พ เ ด ท ข่ า ว ส า ร ก่ อ น ใ ค ร ไ ด้ ที่
   
 ห่อตัวมัสลิน ผ้าอ้อมมัสลิน บอดี้สูทเด็ก บอดี้สูททารก ถุงนอนทารก ผ้าปูรองฉี่ ของใช้ทารกแรกเกิด  


วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2562

การห่อตัวทารกมีประโยชน์อย่างไร??



     เมื่อทารกคลอดออกมาจากครรภ์มารดาแล้ว จะได้รับการอาบน้ำทําความสะอาดร่างกาย หลังจากนั้นคุณพี่พยาบาลจะใช้ผ้าห่อตัวทารกน้อยก่อนนำมามอบให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้ชื่นชม บางครั้งคุณพ่อกับคุณแม่อาจเข้าใจว่าการใช้ผ้าห่อตัวลูกน้อยเป็นเพียงการช่วยพยุงทารกในระหว่างการฝึกอุ้มเด็กอ่อน หรือเพื่อความสะดวกในการให้นม

     แต่แท้ที่จริงแล้วการห่อตัวทารกในช่วงหลังคลอด เป็นการช่วยทารกในการปรับตัวให้เคยชินกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง กระชับแขนขา ลดอาการสะดุ้งตกใจจากเสียงดัง รักษาความอบอุ่นทำให้ทารกไม่รู้สึกหนาว นอนหลับได้นานขึ้น ระยะเวลาในการห่อตัวทารกนั้นไม่มีข้อกําหนดที่แน่ชัด คือตั้งแต่ 3 วันหลังคลอดจนถึง 1 เดือน หรือบางครั้งอาจพิจารณาเลิกห่อตัวเมื่อทารกเริ่มพลิกกลับตัวได้เอง




อั พ เ ด ท ข่ า ว ส า ร ก่ อ น ใ ค ร ไ ด้ ที่
   
 ห่อตัวมัสลิน ผ้าอ้อมมัสลิน บอดี้สูทเด็ก บอดี้สูททารก ถุงนอนทารก ผ้าปูรองฉี่ ของใช้ทารกแรกเกิด