✿ อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
1. ไม่ควรลงแช่ในอ่างน้ำ สระน้ำหรือแม่น้ำลำคลอง เพราะเชื้อโรคอาจเข้าสู่โพรงมดลูกได้ เนื่องจากปากมดลูก ยังปิดไม่สนิท
2. ใช้ขันตักอาบ หรือน้ำฝักบัว
✿ แปรงฟันให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง บรรเทากลิ่นปาก
1. บ้วนปากหลังการกินอาหารทุกมื้อ
2. แปรงลิ้นทุกครั้งหลังการแปรงฟัน
3. ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
4. ควรไปพบทันตแพทย์
✿ ทำความสะอาดบริเวณแผลฝีเย็บ
1. ใช้น้ำสะอาด หรือสบู่ ล้างให้สะอาด จากบริเวณด้านหน้าไปด้านหลัง (ทวารหนัก)
2. หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ
✿ พักผ่อนให้เพียงพอ
1. ควรพักผ่อนและนอนหลับให้เต็มที่
2. หาเวลาพักผ่อนบ้างในขณะที่ลูกหลับ
✿ การทำงาน
1. สามารถทำงานเบาๆได้ตามปกติ เช่น กวาดบ้าน หุงข้าว ทำกับข้าว
2. ไม่ควรยกของหนัก
3. ไม่ควรขึ้นลงบันไดบ่อยๆ เพราะอาจทำให้แผลฝีเย็บแยก และทำให้เกิดกระบังลมหย่อนได้
✿ การออกกำลังกายหลังคลอด
1. ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป
2. เริ่มจากท่าง่ายๆและเบาๆ ในวันแรกหลังคลอด
3. หลังจากนั้นเพิ่มความแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ
✿ กินอาหารเพิ่มขึ้น
1. ดื่มนมเพิ่มเป็นวันละ 1-2 แก้วสลับกับปลาเล็กปลาน้อย
2. กินผักผลไม้สดทุกวัน
3. หลีกเลี่ยงอาหารหมักดองและอาหารรสจัด
4. ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 7-8 แก้วช่วยเพิ่มน้ำนมมากขึ้น
✿ การรับประทานยา
1. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง
2. ยาบางชนิดขับออกทางน้ำนมเป็นอันตรายต่อลูกได้
✿ งดเพศสัมพันธ์ 6 สัปดาห์หลังคลอด เนื่องด้วย
1. แผลในโพรงมดลูกยังไม่หายดี
2. ปากมดลูกยังปิดไม่สนิท
3. กล้ามเนื้อช่องคลอดยังไม่แข็งแรง
4. อาจทำให้เกิดการฉีกขาดบริเวณแผลฝีเย็บ ช่องคลอด และเกิดการติดเชื้อได้
✿ นัดตรวจ 6 สัปดาห์หลังคลอด
1. ตรวจดูการอักเสบในมดลูก
2. ตรวจแผลฝีเย็บ
3. ตรวจมะเร็งปากมดลูก
4. ช่วยเหลือในเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
5. การวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิด










